วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการฝึกปฏิบัติเจริญกรรมฐาน ช่วงที่๑

บันทึกการฝึกปฏิบัติเจริญกรรมฐาน ช่วงที่๑

ช่วงนี้โพสแต่ธรรมะไปเรื่องทางธรรมเสียมาก พอปฏิบัตินานเข้า อะไรที่เคยชอบอย่างถ่ายภาพแต่งภาพมันก็เริ่มเฉยๆไป เที่ยวก็เฉย สังคมก็เฉย ...ว่างก็จับอารมณ์ตลอด ไม่อยากให้เผลอแม้วินาทีเดียว จนหลายครั้งอยากปลีกวิเวกออกมาจากวงสนทนา เพราะอยู่เงียบๆมันภาวนาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละเราอยู่ทางโลกมันทำไม่ได้... หลวงตาสอนว่า 

"เราอยู่ที่ไหนกับใครก็ได้ถ้าเรามีกรรมฐาน เราไม่จำเป็นต้องไปวิเวก กายวิเวกไม่ต้องถ้าเราทำจิตวิเวก จิตวิเวกคืออยู่ในที่ที่คนหมู่มากสถานที่ครึกโครม เราทำในใจ ภาวนาในใจ นั้นคือจิตวิเวก ถ้ากายวิเวกคือไปอยู่คนเดียวในป่าหรือในห้อง ถ้าจิตวิเวก กายมันก็วิเวก กายวิเวกจิตก็วิเวก มันอยู่ด้วยกัน"

"สวดมนต์ แผ่เมตตา โมทนาบุญ ทำสามอย่างนี้จิตมันจะเบา คนมีเมตตาจิตมันจะเบา จิตมีกำลัง จิตไม่สะเทือน เบาขนาดไหน คือไม่รำคาญในเสียง ถึงรำคาญก็ไม่นาน นั่นคือจิตเบา บางคนฝึกกรรมฐานมานาน ลองสำรวจตัวเองดูว่าเรายังหงุดหงิดในรูปรสกลิ่นเสียงที่เราสัมผัสไหม ถ้ายังนั่นแสดงว่าเรายังไม่ได้ จิตเบาคือจิตพรหม ถ้าเบานานๆเข้ามันจะนิ่ง จิตมันจะสบาย ไม่วุ่นวาย"


2 ความคิดเห็น: