วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าสู่การเติบโตภายใน


:: เรื่องเล่าสู่การเติบโตภายใน ::

ชีวิตคนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน บางคนโตเป็นผู้ใหญ่แต่วุฒิภาวะไม่ได้เติบโตขึ้นด้วย เติบโตในที่นี้หมายถึงการเติบโตทางจิตใจและการกระทำ แม้ตัวเราเองก็ยังต้องฝึกฝนและพัฒนาให้เติมโตอยู่เสมอ

จุดเปลี่ยนในชีวิตอย่างหนึ่ง จากเด็กกะโปโล เที่ยวเล่นหาอะไรสนุกๆทำไปเรื่อยๆ กินเหล้าสังสรรค์พบปะกับเพื่อนๆ ...ได้มีโอกาสรู้จักกับอาจารย์สอนพลังธรรมชาติโดยการแนะนำของแฟนเรา ซึ่งตอนนั้นอยากให้เราฝึกนั่งสมาธิมากๆ เพราะเป็นคนที่จิตใจวุ่นวายเหลือเกิน

อาจารย์ผู้เป็นที่รัก สอนทุกอย่างตั้งแต่การนั่งสมาธิ การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างพอเพียง ธรรมชาติบำบัด การรักษาโดยเรกิ เราสองคนและพี่ๆน้องๆลูกศิษย์ นั่งสมาธิที่บ้านอาจารย์ทุกวันอาทิตย์ เรานั่งล้อมวงกันเป็นวงกลม อาจารย์บอกว่าทำให้เกิดพลังกลุ่มอย่างหนึ่ง ไม่มีการใช้โทรศัพท์ โซเชียลใดๆ ทุกคนสนใจอยู่แต่กับการพูดคุยกัน เราพูดคุยกันถึงเรื่องชีวิตที่ผ่านมาในแต่ละสัปดาห์ สิ่งไหนดีก็แบ่งปัน สิ่งไหนไม่ดีก็แนะนำให้ปรับปรุงด้วยสติ สัมผัสได้ถึงความรักความหวังดีที่มอบให้กันเสมอๆ อาจารย์ไม่เคยเคี่ยวเข็ญให้นั่งหรือทำอะไร แต่ท่านจะมีวิธีทำให้เรามีกำลังใจอยากพัฒนาตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้กิจกรรมที่เราทำร่วมกันอีกคือการทำอาหารกลางวันร่วมกัน ช่วยกันคนละไม้ละมือ อาหารทุกอย่างเป็นมังสวิรัติ ใบไม้ใบหญ้า อาจารย์ยังสอนเรื่องสุขภาพ การดูแลตัวเองจากอาหารการกินอีกด้วย ถ้าไปที่บ้านนี้จะได้พลังกลับมาอย่างเต็มเปี่ยมทั้งร่างกายและจิตใจ

ทุกวันนี้สิ่งที่ยังทำอยู่สม่ำเสมอคือการนั่งสมาธิ ที่ไหนก้นั่งได้ ที่บ้าน บนรถ วันไหนไม่ได้นั่งสมาธิก็ใช้การกำหนดรู้ตัวกับทุกอย่างที่ทำในชีวิตประจำวัน และแน่นอนเราไม่ได้รู้ตัวตลอดเวลา ในหลายครั้งที่เราเผลอ เมื่อนึกได้ก็ให้กลับมากำหนดอยู่ที่ลมหายใจ เราฝึกฝนอย่างนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งปีและปัจจุบันนี้ก็ยังฝึกฝนอยู่เสมอ

ในทุกครั้งที่เกิดปัญหาอะไรก็ตาม คิดเสมอว่าเป็นสิ่งที่เขานำมาฝึกฝนเราเป็นด่านๆหนึ่ง ฝึกให้เราแข็งแกร่งและเติบโตทางจิตใจขึ้นอีก เขาเป็นอาจารย์มาสอนเรา อาจารย์โกรธ อาจารย์เบื่อ อาจารย์ขี้เกียจ อาจารย์เศร้า สารพัดอาจารย์อยากสอนเราทั้งนั้น

แฟนเราเคยบอกว่าเหมือนเป็นกฏแรงดึงดูดคือหากเราเป็นคนเช่นไรหรือสภาวะนั้นเรากำลังทำอะไร ธรรมชาติก็จะดึงดูดเราให้ได้พบเจอกับคนแบบนั้น เป็นโชคดีของเราทำให้เราพบเจอกับพี่ๆที่ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิหลายคน พี่ๆที่เป็นสายสุขภาพบำบัด ทุกๆคนล้วนแต่มีความคิดไปในทางเดียวกันคือใฝ่หาความสงบให้กับชีวิต มีโอกาสเข้าวัดบ่อยขึ้น ไปทำบุญสนทนาธรรมกับหลวงพ่อและได้เห็นว่าคนที่เขาปฏิบัติจริงๆเป็นแบบไหน คนไหนจริงคนไหนไม่จริง นอกจากนี้หากมีความสงสัยเกิดขึ้น มีกิเลสความทุกข์ อาจารย์และพี่ๆมักให้คำแนะนำที่ดีเสมอ แบบนี้คือกัลยาณมิตรแท้ ขอบคุณโจ๊ะและพี่ๆทุกคนที่ก็รู้ว่าใคร 

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่รู้หรอกว่าเราเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างมากน้อยเท่าไหร่ เราคิดแค่พัฒนาตนเองอยู่เสมอทุกลมหายใจ จะรู้ตัวก็แต่คนรอบข้างทักว่าใจเย็นขึ้นบ้าง ดูมีออร่าบ้างต่างๆนาๆ ทุกวันนี้ตัดสินใจแน่วแน่กับแฟนว่าจะรักษา ศีล 5 เลิกดื่มเหล้าเลิกอบายมุขเด็ดขาด แล้วหันมาชวนเพื่อนๆที่เรารักทำบุญนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ดูแลสุขภาพด้วยธรรมชาติ อย่างที่เราเคยมีประสบการณ์มาบ้าง ด้วยใจที่อยากให้จริงๆไม่ได้หวังอะไรทั้งสิ้น ด้วยเพียงแค่อยากให้ทุกคนมีจิตใจแจ่มใสเบิกบานจากข้างใน ปราศจากความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง

ใช้ชีวิตในทางโลกมาทั้งชีวิต อยากให้ฝึกฝนจิตใจให้เติบโตในทางธรรมเพื่อพ้นจากทุกข์ด้วยอีกทางหนึ่ง กรรมหรือการกระทำในข้างหน้านี้เหลือแต่ชีวิตเราตอนนี้ที่ทำได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น