การเดินทางครี้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากนัก ไปกับเพื่อนหลายคนทำให้การเดินทางสนุกสนานครื้นเครงแบบฉบับวัยรุ่น
การเดินทางต้องใช้เรือข้ามฟากพื่อเข้ามายังบ้านพัก
บ้านพักในตัวอุทยานอยู่ในบริเวณหาดแหลมศาลา มีประมาณสิบหลังเท่านั้นจึงทำให้ชายหาดบริเวณบ้านพักค่อนข้างเป็นส่วนตัวอย่างมาก ตกกลางคืนยังสามารถตั้งแคมป์ไฟ นอนดูดาว ฟังเสียงคลื่น ได้ตามสบายค่ะ
หลังจากมาถึงบ้านพักเก็บสัมภาระที่บ้านพักก็เริ่มด้วยการเล่นน้ำทะเลตั้งแต่หัววันยันเย็น หมดแรงไปตามๆกัน อาหารเย็นไม่มีอะไรมาก กินข้าวสังสรรค์ที่ร้านอาหารของอุทยานแบบเบาๆ และกลับไปเล่นเกมส์เฮฮากันต่อที่บ้านพักค่ะ
สวัสดีเช้าวันแรกกับการเดินขึ้นเขาไปชมถ้ำพระยานคร
ภูเขาด้านหลังบ้านพักมี ถ้ำพระยานคร ซึ่งจะต้องเดินเท้าขึ้นไปจากหาดแหลมศาลาอีกประมาณ 430 เมตร เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีปล่องด้านบน ด้านล่างเป็นป่า ต้นไม้ค่อนข้างสูงชะลูด ถ้ำพระยานครถูกค้นพบโดยพระยานคร ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาในสมัยรัชการที่ 5 ทรงทราบว่าถ้ำนี้สวยงามมาก จึงมีพระราชประสงค์เสด็จประพาส จึงให้นายช่างประจำราชสำนักก่อสร้างพลับพลาแบบจตุรมุขขนาดย่อยตั้งชื่อว่า เรือนคูหาคฤหาสน์ ไว้บนเนินดินกลางถ้ำ แสงแดดจะส่องจากปล่องด้านบนมากระทบยังตัวคูหาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น หากใครอยากเห็นต้องกะเวลาให้ดีๆนะคะ
หลังจากผจญภัยกันมาครึ่งค่อนวันก็กลับมาเก็บสัมภาระและเตรียมตัวออกเดินทางเพื่อไปพักยังบ้านพักติดทะเลที่ตัวอำเภอหัวหินอีกหนึ่งคืนค่ะ
หลายคนเที่ยวหัวหินวันเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่การไปเที่ยวเป็นกรุ๊ปแก๊งค์เพื่อนๆ ทำให้การเที่ยวที่ไหนก็สนุก วันเดียวไม่เพียงพอสำหรับเราค่ะ หลังจากเก็บสำมะโนครัวจากอุทยานเขาสามร้อยยอดแล้วก็มุ่งสู่ตัวอำเภอหัวหินทันที โดยนัดกันว่าเอาของไปเก็บที่พักให้เรียบร้อยก่อนแล้วถึงหาที่เที่ยวต่อค่ะ ที่พักใหม่นี่อยากบอกว่าคุ้มแสนคุ้ม เป็นที่พักเรือนไม้มีหลายหลัง บ้านของเราชื่อ "บ้านจุลฝ่า" เห็นบ้านไม้สมัยรัชกาลที่ห้า แบบบ้านคลาสสิคมาก รั้วของบ้านติดกับรั้วพระราชวังไกลกังวล แค่นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้วใช่มั๊ยล่ะคะ
เมื่อเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งตรงสู่สถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่งในหัวหิน นั่นก็คือ "เพลินวาน" ตลาดจำลองในสมัยก่อน ที่ทำเลียนแบบคล้ายตลาดสามชุก ตลาดน้ำอัมพวา ผสมปนเปกันจนแยกไม่ออกแล้วค่ะ แต่สถานที่แห่งนี้วัยรุ่นอย่างพวกเราชอบมาก เพราะมีการจัดฉากทำร้านค้าสวยงามมากมาย เหมาะแก่การถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระรึกอย่างยิ่ง ตัวด้านในเพลินวานเองไม่ได้ใหญ่มาก เดินเล่นไม่ถึงชั่วโมงก็ครบรอบและทั่วถึง
สรุปว่ากลุ่มของเราเดินเข้าไปถ่ายภาพเท่านั้น ซื้อกาแฟแค่แก้วเดียวเพื่อถ่ายภาพนี้แหละค่ะ หลังจากเสร็จจากเพลินวานเราก็มุ่งตงสู่ตลาดสดเพื่อซื้ออาหารทะเลสดไปทำอาหาร บาบีคิว กินกันในตอนกลางคืน
ของสดที่นี่ไม่แพงอย่างที่คิด ทั้งหอย หมึก กุ้ง ปู มีให้เลือกหลายร้าน นอกจากในตลาดสดจะมีอาหารสดแล้วในบริเวณใกล้เคียงมีร้านค้ามากมายมาตั้งร้านในบริเวณวัด คล้ายงานวัดนั่นแหละค่ะ ของถูกอย่างไม่น่าเชื่อ หยิบจับซื้อกันจนเย็นเลยทีเดียว
กลับจากตลาดเราก็จัดแจงแบ่งหน้าที่กันทำอาหาร จัดโต๊ะ เตาปิ้ง บาบีคิว ที่บ้านพักมีครัวให้ใช้ได้ตามสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเหมือนเราไปเที่ยวบ้านเพื่อน แต่ทุกอย่างต้องทำเองนะคะ ไม่ได้มีบริการเหมือนโรงแรมหรือเกสเฮาท์ทั่วไป เพราะก่อนที่เราจะมาพักที่นี่ก็คิดกันแล้วว่าต้องการปาร์ตี้กันแบบไหน บริเวณบ้านติดทะเล มีการสร้างทางเดินให้เดินเล่นบนชายหาดได้ด้วย ทั้งกิน ทั้งเล่นน้ำ เล่นทราย สนุกมากๆค่ะ แต่เนื่องด้วยบ้านพักของเราติดกับพระราชวัง ด้านรั้วชายหาดของวังทหารจะนำรั้วลวดหนมมากั้นไม่ให้ึคนนอกเดินเข้าไป และห้ามส่งเสียงดัง ดังนั้นเราจึงร้องเพลง เสวนากันแบบเงียบๆและเดินเล่นบนชายหาดแค่ฝั่งเราเท่านั้นค่ะ
เสร้จสิ้นการสังสรรค์เรียบร้อย ในตอนเช้าก่อนมุ่งตรงกลับสู่กรุงเทพ พลาดไม่ได้อีกสถานที่หนึ่งคือ "สถานีรถไฟหัวหิน" นี่ก็เป็นตัวเลือกอีกด้านของการเดินทางมาเที่ยวหัวหินที่นิยมหันมาก ถ้าคุณได้มาที่หัวหินอย่าลืมแวะไปชมสถานีรถไปหัวหินนะคะ เพราะที่นี่เขาสร้างได้โบราณน่าเดินชมมากๆค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น