ดอยหลวงเชียงดาว เป็นเทือกเขาที่มีความยาวติดต่อกันเป็นเทือกเขาสูงใหญ่ สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย สูงถึง 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในสมัยก่อยดอยเชียงดาวถูกเรียกว่า "ดอยอ่างสลุง" และเนื่องจากดอยแห่งนี้มีขนาดสูงใหญ่ ซึ่งคำว่าหลวงแปลว่าใหญ่ จึงเพี้ยนเป็น "ดอยหลวงเพียงดาว" และต่อมาจนกระทั่งกลายเป็น "ดอยหลวงเชียงดาว"
สามวันสองคืนบนดอยหลวง ป่าไม้พืชพรรณอุดมสมบูรณ์ อ
ตื่น
โดยทริปนี้เราใช้เวลาทั้งหมดสามวันสองคืน
การเตรียมตัว
1. เครื่องแต่งกาย ควรเป็นกางเกงขายาวและไม่ควรเป็นยีนส์เพราะมักจะทำให้เสียดสีรู้สึกอึดอัด เสื้อยืดแขนยาว แขนสั้น สีสันตามสะดวก รองเท้าหุ้มส้นมีดอกยางช่วยในการเกาะและมั่นคงเวลาก้าวเดิน หมวกหรือผ้าคลุมหน้าเอาไว้ป้องกันฝุ่น ลมและแสงแดด
2. กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระ ควรแยกออกเป็นสองใบคือ กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระที่เราสามารถนำติดตัวไปเที่ยวเดินเขาด้วยได้และกระเป๋าใส่สัมภาระที่วางเก็บไว้ที่แคมป์ที่พัก
3. ครีมกันแดด สเปย์กันยุง
4 ไฟฉาย สำคัญมากต้องใช้ในการเดินขึ้นลงดอย ควรมีความสว่างมาก
หลังจากเดินทางมาถึงที่ทำการอุทยานในเวลาสาย โดยจุดเริ่มต้นของเราอยู่ที่นี่คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ภายในอุทยานมีห้องน้ำและข้อมูลให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถใช้ล้างหน้าแปรงฟันหรืออาบน้ำก่อนขึ้นเขาได้
เราทำการขนสัมภาระลงจากรถตู้เพื่อย้ายไปยังรถกระบะ เพราะจากตรงนี้เป็นทางขึ้นเขาลาดชันมาก ต้องนั่งรถกระบะไต่เขาไปหลายกิโลเมตร ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
และแล้วก็มาถึงจุดเริ่มต้นการเดินทางบนเขา ดอยหลวงเชียงดาว อ่างสลุง ระยะทาง 6,500 เมตรจากจุดที่เดิน ตรงบริเวณนี้มีไม้ไผ่ที่ตัดให้เป็นไม้เท้าช่วยในการเดินให้บริการ
หากลองสังเกตุหินให้ดีก็จะพบกับฟอสซิลหอย Gastropod ภูเขาหินปูนยุค Permian ก้อนนี้คาดว่าผ่านฝ่าเท้านั
ทางเดินไม่ชันมาก เป็นทางค่อยเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆสบายๆ
หลังจากทำการกางเตนท์และจัดการกับสัมภาระ อากาศเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็วในเวลาเย็น ต้องมีการก่อไฟใฟ้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ยึ่งตอนกลางคืนหนาวเย็นจับขั้วหัวใจ อากาศเย็นลงถึง 4 องศา แม้แต่ในเตนท์ยังหนาวเหมือนตู้เย็น
ในตอนกลางคืนอากาศหนาวเย็นลงจัดมาก ต้องเอาถุงพลาสติกมาห่อข้างนอกถุงนองเพื่อช่วยเพิ่มความอบอุ่นอีกชั้น
หลังจากเข้านอนกอดความหนาวเย็นแล้ว เช้าถัดมาต้องตื่นแต่ตีสี่เพื่อเตรียมตัวเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นดอยที่อยู่ไม่ห่างจากที่พักมาก ทุกคนต้องมีไฟฉายประจำตัวเพื่อช่วยเดินทางในที่มืด หลังจากเดินมาได้ชั่วโมงเศษก็ถึงยอดกิ่วลม
บนดอยกิ่วลม เริ่มเห็นแสงพระอาทิตย์กำลังขึ้นที่เส้นขอบฟ้า
ในที่สุดก็เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่เส้นขอบฟ้า สวยงามประทับใจมาก
บนนี้ยังทำให้มองเห็นดอยสามพี่น้องได้ชัดเจน และยังมีเมฆลอยผ่านมาตลอดสาย
เก็บภาพความประทับใจกับเดอะแกงค์สักหน่อย
และก็เดินทางกลับสู่แคมป์ที่พัก
เส้นทางมีภูเขาสองข้างทางยิ่งใหญ่อลังการมาก
กว่าจะถึงแคมป์ที่พักก็เป็นเวลาสายมากเกือบเที่ยง ถึงแคมป์ก็จัดการช่วยกันทำอาหาร พักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อที่ตอนบ่ายเราจะเดินทางไปอีกทางเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกบนยอดดอยหลวง การเข้าห้องน้ำในทริปนี้เรียกได้ว่าสัมผัสธรรมชาติจริงๆ ห้องน้ำธรรมชาติ ตามพุ่มไม้ และข้างบนนี้ไม่มีน้ำให้ใช้เลย ดังนั้นเราต้องประหยัดน้ำเพื่อดื่มและทำอาหาร เรื่องการอาบน้ำใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเนื้อตัวแทนค่ะ
บนยอดดอยหลวงชียงดาวเต็มไปด้วยดอกอ้อมดอยสีม่วงสวยงาม
ความใหญ่ตระการตาของภูเขาฝั่งตรงข้าม แสงอาทิตย์ส่องผ่านยอดเขายอดดอยสามพี่น้อง
ในที่สุด จุดสูงสุดยอดดอยหลวงเชียงดาว สูงจากระดับน้ำทะเล 2,225 เมตร ในเขตรักษาพันธุ์สัตย์ป่าเชียงดาว ให้ความรู้สึกว่าเราอยู่ใกล็กับเมฆเพียงนิดเดียว
มองไปยังเขาด้านล่างทำให้รู้สึกว่าเราอยู่สูงมากจริงๆ อากาศค่อยๆเย็นลงเรื่อยๆ ลมพัดเอื่อยมาให้หนาวเย็นตลอดเวลา
หลังจากที่เก็บภาพและชมบรรยากาศจนจุใจแล้วใกล้มืดค่ำก็ต้องลงเขากลับไปยังแคมป์ที่พักแล้วค่ะ ยิ่งมืดยิ่งมองไม่เห็น ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทางค่อยๆไต่ลงเขาไป และก็รับประทานอาหารนอนพักผ่อน
สวัสดีเช้าอีกหนึ่งวันบนดอยหลวงค่ะ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ทำการเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางลงเขา
ขาลงสบาย เดินชมวิวไปตลอดทาง
ดอกฮ่อมเชียงดาว
บนเส้นทางสายสีชมพู ดอกพญาเสือโคร่ง มีให้เห็นประปรายตลอดเส้นทางเดิน
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงยังจุดแรกจุดเดียวกับที่ขึ้นเขาใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้น อากาศดี จัดการเก็บสัมภาระขึ้นรถกระบะเพื่อไปยังรถตู้ อาบน้ำล้างตัวหลังจากที่ไม่ได้สัมผัสน้ำเลยมาสามวัน
ออกจากป่า หลังจากอาบน้ำ หมักหมมกันไปสามวัน ที่ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน ลุ่มน้ำแม่ปิง มองเห็นเขาหลวงที่เราพึ่งเดินลงมาไกลๆโน่นเลยค่ะ ที่นี่มีห้องน้ำบริการแก่นักท่องเที่ยวและยังมีแหล่งสมุนไพรพื้นบ้านขาย ซึ่งเราสนใจกันมากโดยเฉพาะการทำดีท็อกและสมุนไพร
ขอบคุณภาพหลายภาพจากกล้องพี่บอย
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ
พบกันทริปหน้าค่ะ
สวัสดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น