ตามหาหัวใจแห่งอุ้มผาง "เปรโต๊ะลอซู" หรือ "ปิ๊ตุ๊โกร" หลังจากที่นัดกันมากว่าสามเ
ออกเดินทางทุกครั้ง ได้มิตรภาพใหม่ทุกครั้ง การใช้ชีวิตช่วยเหลือกัน ประสบการณ์วิถีชีวิตความเป็
โดยจุดเริ่มต้นเตรียมสัมภาระที
การเตรียมตัว
1. เครื่องแต่งกาย ควรเป็นกางเกงขายาวและไม่ควรเป็นยีนส์เพราะมักจะทำให้เสียดสีรู้สึกอึดอัด เสื้อยืดแขนยาว แขนสั้น สีสันตามสะดวก รองเท้าหุ้มส้นมีดอกยางช่วยในการเกาะและมั่นคงเวลาก้าวเดิน
2. กระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระ ควรมีแพ็คของใส่ถุงกันน้ำเพราะฝนอาจตกได้ตลอดเวลา ให้เตรียมพร้อมไว้ก่อน
3. สเปย์กันยุง สเปย์กันทาก
4. เสื้อกันฝน
5. ไฟฉาย
เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพในคืนวันศุกร์ นอนพักผ่อนเอาแรงบนรถจนกระทั่งมารีสอร์ทในอุ้มผางในเวลาเช้า จัดการแบ่งกระเป๋าสำหรับใส่เสื้อผ้าอาบน้ำตอนขาลงและแพ็คสัมภาระใส่กระเป๋าเดินป่า และรับประทานอาหารเช้าเตรียมตัวออกเดินทาง
นั่งรถสองแถวจากรีสอร์ทขึ้นเขาจนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านกุยเลอตอ ทางเข้าจุดเริ่มต้นของการเดินทาง ใช้เวลากว่าชั่วดมงขึ้น เส้นทางไต่เขาและโค้งมากมาย ผ่านหมู่บ้านศูนย์อพยพขององค์การยูเนสโก้ และฝุ่นตลบตลอดทาง
ถึงแล้วจุดเริ่มต้นขึ้นเขา ที่หมู่บ้านกุยเลอตอ ดูเผินๆอาจจะไม่รู้ว่าอยู่ที่นี่ เพราะทางเป็นลักษณะคันนาทั่วไป
หลังจากเดินเข้ามาได้เล็กน้อยก็พบเส้นทางเต็มไปด้วยน้ำไหลเป็นลำธารต้องเดินลุยน้ำเข้าไป
เส้นทางเป็นแบบนี้ตลอด แห้งบ้าง ต้องลุยน้ำบ้าง บางจุดเป็นโคลนตมดินเหลว
เริ่มหาตัวช่วย พี่มานะตัดไม้ไผ่ใช้เป็นที่ค้ำช่วยเดิน
หลังจากเดินผ่านป่า ลำธาร โคลนตม ก็เข้าสู่ช่วงเดินผ่านไร่และทุ่งนา
ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ เหงื่อเริ่มท่วมแล้ว
ผ่านช่วงทุ่งนาก็มาถึงตีนเขา ค่อยๆเดินปีนเขาไปเรื่อยๆทางไม่ชันมาก
ระหว่างทางมีลำธารไหลเป็นระยะ ไม่ขาดสาย
เจอน้องหิ้วของในระหว่างทางเดิน ตัวเล็กแต่ใจเกินร้อยจริงๆ
เดินผ่านลำธารตัดทางเดิน หลายลำธารมาก
จนกระทั่งมาถึงจุดที่ต้องข้ามน้ำตก ชาวบ้านทำสะพานโดนเอาขอนไม้และไม้ไผ่มาพาดเป็นสะพานข้าม บริเวณนี้เป้นน้ำตกเล็กๆระหว่างทาง
หลังจากพักผ่อน กินอาหารเที่ยงที่ลำธารก็เดินทางกันต่อ
ในระหว่างทางนั้นมักจะเห็นน้ำตกขนาดเล็กตามทางเสมอและแต่ละน้ำตกก็สวยงดงาม นั่งพักเก็บภาพให้หายเหนื่อย มีพืชพรรณธรรมชาติ ดอกไม้ ตระไคร่น้ำให้เห็นตลอดทาง
หลังจากเดินมาถึงที่พักชื่อแคมป์ลุงสิงห์ จัดการวางสัมภาระ แต่แคมป์ตรงนี้ยังไม่ใช่แคมป์ที่เราจะพัก แต่จากจุดนี้ต้องเดินไปอีกทางเพื่อขึ้นเขาไปดูน้ำตกรูปหัวใจ จุดสำคัญของทริป ห่างจากแคมป์ลุงสิงห์ไม่กี่ร้อยเมตร
ในที่สุดเราก็ถึงจุดไคแม็กสำคัญของทริป น้ำตกรูปหัวใจ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลมาจากหน้าผาสูงคนละฝั่งและมาบรรจบกันจนเกิดเป็นรูปหัวใจขึ้นมา ธรรมชาติสร้างได้สวยงามจริงๆ
หลังจากถ่ายภาพหัวใจกับน้ำตกจนพอใจเราก็เดินทางมาเอาสัมภาระเดินขึ้นต่อไปสุงจากแคมป์ลุงสิงห์ เป็นแคมป์ใหญ่อีกที่ที่เราจะพักกัน จัดการวางสัมภาระ กางเตนท์ก็เข้าเวลาใกล้ค่ำพอดี แคมป์ที่นี่อยู่ใกล้กับบริเวณน้ำตกเล็กๆ สามารถลงไปอาบน้ำหรือหาน้ำใช้ในการประกอบอาหารได้ ช่วยกันทำอาหาร กินข้าวและนั่งคุยกันพักผ่อนตามอัธยาศัย
สวัสดีตอนเช้าจากปิ๊ตุ๊โกรค่ะ เช้านี้ตื่นมาอากาศเย็นสบาย มีน้ำค้างลงไม่มาก เห็นเมฆหมอกพัดผ่านรับกับแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆขึ้นมา
เช้านี่ที่แคมป์ใหญ่เราช่วยกันทำอาหารเช้า เตรียมอาหารเที่ยงสำหรับออกเดินทาง ซึ่งแผนในวันนี้คือเดินขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่น ซึ่งเป็นยอดที่สูงที่สุดของทริปนี้ หลังจากรับประทานอาหารจัดกระเป๋าสัมภาระก็ออกเดินทางกันค่ะ
เริ่มเดินขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่น เป็นทางขึ้นเขาที่ชันมากสลับกับเนินขึ้นไปเรื่อยๆ
จากจุดทางขึ้นเขาตรงนี้สามารถมองเห็นสายน้ำตกปิ๊ตุ๊โกรได้ เส้นสายที่ไหลลงมาบรรจบกัน
ในที่สุดเราก็เดินขึ้นมาถึงยอดดอยมะม่วงสามหมื่น จุดสูงที่สุดของทริปนี้ ที่จริงเขาสามาถเดินต่อไปได้อีก แต่ยังไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเพราะเลยไปอีกก็เป็นเขตชายแดนพม่า
มองเห็นเนินสูงอีกไกลๆ แต่ไปต่อไม่ได้ เป็นเขตแดนของประเทศพม่า
เก็บภาพเป็นที่พอใจก็ได้เวลาเดินทางกลับไปยังแคมป์ ณ ตอนนี้ใช้เวลาเดินไม่นาน จากแคมป์เดินจนถึงยิดยังไม่ถึงเที่ยงเลยค่ะ
หลังจากเดินลงมาถึงเนินเขาหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นน้ำตกปิ๊ตุ๊โกรจากที่นี่ได้ชัดเจน เราก็ยืนรอดูรุ้งกินน้ำกันค่ะ ว่ากันว่าเป็นจุดที่เห็นรุ้งกินนำบ่อยที่สุด ยืนอยู่ไม่นานเมฆหมอกก็ปลิวผ่านตัวไปเป็นระยะ ฟ้าสลัวบ้าง ฟ้าสว่างบ้าง
หลังจากที่รอรุ่งกินน้ำเกือบชั่วโมงก็ไม่เห็น เริ่มบ่ายก็เดินทางกลับแคมป์ที่พักกันค่ะ
ระหว่างทางลงเขากลับแคมป์ เห็นวิวภูเขาไกลสุดลูกตา เป็นวิวที่สวยงามมากเลยทีเดียว
เดินทางลงมาถึงแคมป์ในเวลาเย็นก็ทำอาหารรับประทาน คุยกันสนุกสนานทั้งคืนกว่าจะได้นอนกันเกือบเที่ยงคืน
เช้าวันสุดท้ายตื่นทานอาหารเสร็จ เก็บแคมป์และสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับไปยังจุดแรกเพื่อรอรถมารับกลับรีสอร์ท
เก็บภาพขากลับ เดินลงเขาสบายๆ ผ่านป่าลงมาสู่ทุ่งนาและทางเกวียนจนออกถนนใหญ่สายหลัก
ทริปนี้ได้ถ่ายคลิปเล่นๆบ้างและยังพี่ในกลุ่มที่ถ่ายจริงจังกับโกโปร เอามาให้ชมกันค่ะ แล้วคุณจะหลงรักการเดินทางในครั้งนี้
ทริปนี้เป็นทริปที่แบกขาตั้งกล้องตั้งใจไปถ่ายน้ำตกรูปหัวใจ ตอนแรกจินตนาการว่าคงมีมุมสวยๆแน่นอน แต่ปรากฏว่าจุดที่ถ่ายภาพเป็นเนินเขาที่สูงมาก สามารถยืนได้ไม่เกินห้าคน แคบและอันตรายมาก เลยได้แค่ถ่ายภาพมาแบบไม่ได้ตั้งกล้อง ป่าที่นี่ถือว่าเดินง่าย อาจมีชื้นแแะที่ต้องลุยน้ำลุยโคลนบ้าง ต้องผ่านทุ่งนาชาวบ้านเพื่อขึ้นเขา จากเนินมะม่วงสามหมื่นมองลงมาข้างล่างจะเห็นวิวที่สวยงามมากๆ เป็นทริปหนึ่งที่ประทับใจ
เจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ
สวัสดี