ในใจตอนนั้นเกิดความคิดสองอย่าง หนึ่ง-เดินกลับไปจ่ายเงินแม่ค้าให้ถูกต้อง เงินแม้ไม่มากมายก็มีค่ากับคนทำมาหากินทั้งนั้น...สอง-ไม่เดินกลับไปจ่าย เดินมาก็ไกลแล้วโชคดีจะตายไป ไม่ใช่ความผิดเราสักหน่อยที่เขาคิดเงินผิด...มันเป็นความรู้สึกด้านดีกับด้านไม่ดีตบตีกันอยู่
ใช่... จิตใจกำลังต่อสู้กันอย่างฝืนใจภายในเป็นอย่างยิ่ง ความโลภ การยึดติด การไม่เสียสละ การไม่ยกให้ ความอึดอัดใจได้เกิดขึ้น กับกำลังของจิตที่มุ่งมั่นฝ่ายดีงามอยู่ข้างใน ในขณะที่คิดก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...และอยู่ดีๆก็เดินกลับไป แม้เราเองก็ไม่เข้าใจ การเคลื่อนไปของคุณธรรมกลับมีกำลังมากกว่าความโลภความตระหนี่ข้างใน ในท้ายที่สุดเราก็เดินกลับไปจ่ายเงินให้แม่ค้า 150 บาท
เมื่อจ่ายเงินให้แม่ค้าแล้ว แม้แม่ค้าจะชื่นชมยินดีในตัวเราบอกว่าไม่เคยเจอลูกค้าคนไหนเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่ค้นพบในความจริงก็คือ "การชนะใจที่ยิ่งใหญ่คือการชนะใจตนเอง" แล้วเราจะได้รับอิสระจากสิ่งผูกมัดจิตใจหรือกิเลสนั่นเอง คนเราทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่ด้านไหนจะชนะได้ก็เท่านั้น หากด้านไหนชนะได้ในครั้งแรก ก็ไม่ยากเลยที่ครั้งที่สองจะเป็นแบบนั้นอีก ครั้งแล้วครั้งเล่าเราก็จะเป็นแบบนั้น แล้วจะกลายมาเป็นนิสัยและสุดท้ายก็กลายเป็นสันดารในจิตใต้สำนึกเรา
เคยอ่านบทชีวประวัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเล่าทั้งเรื่องไม่ดีและเรื่องดีของท่านทั้งสองอย่าง เห็นว่าเป็นข้อคิดที่ดีเราก็อยากเล่าเรื่องที่ไม่ดีบ้าง คนเรามักจะป่าวประกาศแต่สิ่งที่ดีให้คนอื่นมารักมาชื่นชม แต่ด้านไม่ดีกลับปกปิด ปฏิเสธ ฉันไม่ได้ทำฉันไม่เคยทำ...แต่ความจริงฉันเองก็รู้อยู่เต็มหัวใจว่าฉันนั่นแหละที่ทำ
สุดท้ายฝากไว้ ให้คุณลองมาอยู่ในสถานะการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไร?
ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ดี :)