วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

เรื่องเล่าจากเงิน 150 บาท

เมื่อวานไปซื้อของที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง จ่ายเงินแม่ค้าเสร็จเดินออกจากร้านมาไกลแล้ว อยู่ดีๆก็นึกเอะใจอยากบวกเลขราคาของที่ซื้อ ปรากฏว่าแม่ค้าคิดเลขผิด ลืมคิดเงินไป 150 บาท ...





ในใจตอนนั้นเกิดความคิดสองอย่าง หนึ่ง-เดินกลับไปจ่ายเงินแม่ค้าให้ถูกต้อง เงินแม้ไม่มากมายก็มีค่ากับคนทำมาหากินทั้งนั้น...สอง-ไม่เดินกลับไปจ่าย เดินมาก็ไกลแล้วโชคดีจะตายไป ไม่ใช่ความผิดเราสักหน่อยที่เขาคิดเงินผิด...มันเป็นความรู้สึกด้านดีกับด้านไม่ดีตบตีกันอยู่

ใช่... จิตใจกำลังต่อสู้กันอย่างฝืนใจภายในเป็นอย่างยิ่ง ความโลภ การยึดติด การไม่เสียสละ การไม่ยกให้ ความอึดอัดใจได้เกิดขึ้น กับกำลังของจิตที่มุ่งมั่นฝ่ายดีงามอยู่ข้างใน ในขณะที่คิดก็ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...และอยู่ดีๆก็เดินกลับไป แม้เราเองก็ไม่เข้าใจ การเคลื่อนไปของคุณธรรมกลับมีกำลังมากกว่าความโลภความตระหนี่ข้างใน ในท้ายที่สุดเราก็เดินกลับไปจ่ายเงินให้แม่ค้า 150 บาท

เมื่อจ่ายเงินให้แม่ค้าแล้ว แม้แม่ค้าจะชื่นชมยินดีในตัวเราบอกว่าไม่เคยเจอลูกค้าคนไหนเป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่ค้นพบในความจริงก็คือ "การชนะใจที่ยิ่งใหญ่คือการชนะใจตนเอง" แล้วเราจะได้รับอิสระจากสิ่งผูกมัดจิตใจหรือกิเลสนั่นเอง คนเราทุกคนมีทั้งด้านดีและไม่ดี แต่ด้านไหนจะชนะได้ก็เท่านั้น หากด้านไหนชนะได้ในครั้งแรก ก็ไม่ยากเลยที่ครั้งที่สองจะเป็นแบบนั้นอีก ครั้งแล้วครั้งเล่าเราก็จะเป็นแบบนั้น แล้วจะกลายมาเป็นนิสัยและสุดท้ายก็กลายเป็นสันดารในจิตใต้สำนึกเรา


เคยอ่านบทชีวประวัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเล่าทั้งเรื่องไม่ดีและเรื่องดีของท่านทั้งสองอย่าง เห็นว่าเป็นข้อคิดที่ดีเราก็อยากเล่าเรื่องที่ไม่ดีบ้าง คนเรามักจะป่าวประกาศแต่สิ่งที่ดีให้คนอื่นมารักมาชื่นชม แต่ด้านไม่ดีกลับปกปิด ปฏิเสธ ฉันไม่ได้ทำฉันไม่เคยทำ...แต่ความจริงฉันเองก็รู้อยู่เต็มหัวใจว่าฉันนั่นแหละที่ทำ


สุดท้ายฝากไว้ ให้คุณลองมาอยู่ในสถานะการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไร?

ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ดี :)

วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

บทนำ


"ชีวิตงามตามธรรมชาติ"

หลังจากที่ผู้เขียนเองได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับการนั่งสมาธิและพลังธรรมชาติ เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็มทำให้ได้เข้าใจเกี่ยวกับพลังแห่งการบำบัด พลังของธรรมชาติมากขึ้น กอปกับชอบท่องเที่ยวธรรมชาติ เดินป่าเดินเขาทำให้ได้เรียนในคณะธรณีวิทยา แม้แต่ตอนเด็กๆเองยังเคยฝันว่าโตขึ้นอยากจะเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ และนอกจากนี้ผู้เขียนยังได้มีโอกาสอ่านหนังสือหลายๆเล่มจากหลายท่าน เช่นเรื่องกว่าชีวิตจะถึงจิตประภัสสร ของคุณประภัสสร เรื่องชีวิตงามตามธรรมชาติของคุณสิทรา และหนังสืออีกหลายๆเล่ม ทำให้จุดประกายอยากเขียนความรู้และประสบการณ์ต่างๆที่ผู้เขียนเคยได้สัมผัสมา

ตอนนี้ผู้เขียนอายุ 26 ปีใช้ชีวิตเป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป มนุษย์เงินเดือนท่ามกลามเมืองกรุง แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความชอบและรักในธรรมชาติ ทำให้เอาธรรมชาติมาปรับตกแต่งที่อยู่อาศัยด้วยต้นไม้และน้ำตก ตกแต่งโต๊ะทำงานด้วยต้นไม้ ต้นตะบองเพชร ฤาษีผสมและต้นว่าน หินและคริสตัลต่างๆ และนอกจากนี้ยังมีวิถีชีวิตที่แปลกไม่เหมือนคนเมืองเขาทำกัน อย่างเช่นชอบถอดรองเท้าเดิน ชอบโดนล้อ โดนทักก็หลายที แต่ก็มองว่าแต่ละคนมีความคิดไม่เหมือนกัน เราคิดต่าง เขาคิดต่าง เคารพซึ่งความคิดกันและกัน แต่เรื่องแปลกอะไรนั้น หวังว่าคงได้มีโอกาสเขียนในตอนถัดไป